เพชร กับความรัก

เพชร กับความรัก

เพชร ในภาษาอังกฤษ DIAMOND มีที่มาจากคำว่า ADAMAS อะดามาส ในภาษากรีก ซึ่งมีความหมายว่าไม่สามารถเอาชนะได้ หรืออีกนัยหนึ่งแปลว่า ชัยชนะ และ รักนิรันดร์ เพชรได้รับการผูกพันเข้ากับเรื่องความรัก เพราะเพชรก็เช่นเดียวกับความรักที่เป็นหนึ่งและล้ำค่า ชาวกรีกเชื่อกันว่า ประกายสุกใสดุจไฟในเพชร สะท้อนถึงเปลวงไฟรักที่คุกรุ่นอยู่เสมอ

          ในสมัยหนึ่ง มีเพียงกษัตริย์และขุนนางผู้ใหญ่เท่านั้น ที่มีสิทธิสวมใส่เพชร และในศตวรรษที่ 13 เซ็นต์หลุยส์ กษัตริย์แห่งฝรั่งเศสถึงกับสั่งห้ามสตรี เจ้าหญิงและ สามัญชนสวมใส่เพชร เพราะตามทัศนะของเซ็นต์หลุยส์มีเพียงพระแม่มารีเท่านั้นที่คู่ควรกับเพชร ดังนั้น สิทธิพิเศษในการสวมใส่เพชรจึงสิ้นสุดลง และ ตลอดเวลาที่ผ่านมา การสวมใส่เพชร ก็ยิ่งทวีความสำคัญในสตรีทุกๆคน

          สตรีคนแรกที่กล้าแหวกกฎนี้ได้แก่ แอกเนส ชอเรล (ปี ค.ศ. 1422-1450) เธอมิได้เป็นเชื้อพระวงค์ หรือขุนนางสตรีชั้นสูง ทว่าเธอเป็นทีรักของกษัตริย์ชาร์ลสที่ 7 แห่งฝรั่งเศสและด้วยตำแหน่งนี้เองที่ทำให้เธออยู่กฎนั้นๆ

          ร้านรับซื้อเพชรพลอยมีความเชื่อว่าแหวนเป็นสัญลักษณ์อันทรงอำนาจในยุคโบราณ ฟาโรห์แห่งอียิปต์ใช้แหวนเป็นสัญลักษณ์แห่งอมตะ ภาพเขียนของชาวอียิปต์ระบุว่า วงแหวนเป็นสัญลักษณ์แห่ง ชีวิต ความสุข และ ความรัก อันปราศจากการเริ่มต้นและสิ้นสุด

          ในยุคกลาง ผู้คนที่เชื่อว่าแหวนมีพลังอันลึกลับและใช้เป็นเครื่องหมายของอำนาจแต่อย่างไรก็ตาม เพชรมิได้กลายเป็นแหวนประเพณีแห่งการหมั้นหมายกระทั้งศตวรรษที่ 15 แมรี่แห่งเบอร์กันดีได้รับแหวนเพชรเป็นการหมั้นหมายจาก แม็กซิมิเลียน ดยุคแห่งออสเตรีย เมื่อ 17 สิงหาคม ค.ศ.1477 เป็นครั้งแรกและเป็นคนแรก ในประวัติศาสตร์ระบุไว้ว่า ก่อนการสู่ขอแมรี่แห่งเบอร์กันดีหนึ่ในคณะให้คำปรึกษาได้ถวายคำแนะนำแก่ แม็กซิมิเลียนว่า สมควรมอบแหวนทองคำประดับเพชร แด่แมรี่ แม็กซิมิเลียน รับคำแนะนำนั้น ขณะที่เขาสู่ขอ เขาได้สวมแหวนเพชรที่นิ้วนางมือซ้ายของแมรี่ แมรี่กล่าวตอบรับ และประเพณีนิยมนี้ก็ได้ถือกำเนิดขึ้นตั้งแต่บันนั้นเป็นต้นมา

          ทว่า ทำไมต้องนิ้วนาง และ เหตุใดต้องมือซ้ายด้วย ชาวอียิปต์นั่นเองเป็นผู้เชื่อว่าเส้นเลือดแห่งความรัก (VEIN OF LOVE)เชื่อมต่อระหว่งนิ้วนางกับหัวใจ เพชรได้รับการยอมรับว่าเป็นอัญมณีประเพณีแห่งการหมั้นหมายและเป็นสัญลักษณ์แห่งความรัก

ขอบคุณหนังสือ เพชร รู้มาก ยิ่งขายมาก